วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคใต้ (การกรีดยาง) พรชนิตว์ ปลอดรอด น้ำฝน ชุมทอง



โครงงาน 

          เรื่อง ภูมิปัญญาไทย
                         (การกรีดยางของชาภาคใต้)

เสนอ

อาจารย์พรทิพย์      มหันตมรรค

จัดทำโดย

นางสาวพรชนิตว์    ปลอดรอด  เลขที่ ๑๙  ม.๖/๑

              นางสาวน้ำฝน    ชุมทอง       เลขที่ ๒๓  ม.๖/๑

 

วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช  สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

กระทรวงวัฒนธรรม

 
คำนำ

รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการงานอาชีพ จัดทำขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในรายวิชา   และเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับ     ภูมิปัญญาไทย  ของภาคใต้ (การกรีดยาง) สามารถใช้เป็นแบบอย่างต่อรุ่นน้องรุ่นหลังต่อไป  หากรายงานฉบับนี้ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย ณ. ที่นี้ด้วย

 
                                                                                                                   ขอบคุณค่ะ


 

สารบัญ

       เรื่อง                                                                        หน้า

 ชื่อโครงงาน                                                                                           1
-การกรีดยางพาราของชาวภาคใต้                                                            

 ประเภทโครงงาน                                                                                   7
-ผู้เสนอโครงงาน                                                                                        
 
แหล่งข้อมูลที่ได้จาการศึกษาค้นคว้า                                                      8
- วัตถุประสงค์                                                                                              
-หลักการทำโครงงาน                                                                                 

ขอบเขตในการทำงาน                                                                           10

ชื่อโครงงาน
การกรีดยางพารา  ของชาวภาคใต้
 
นับตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิต และส่งออก ยางพาราเป็นอันดับ 1 ของโลก จากการสำรวจ เมื่อปี 2537 พบว่า มีพื้นที่ปลูกยางพารา ประมาณ 11.9 ล้านไร่ ผลิตยางได้ 1.72 ล้านตัน 
การกรีดยาง

           ยางพันธุ์ดีไม่เหมือนยางพันธุ์พื้นเมือง กรีดครั้งหนึ่งน้ำยางออกมากกว่ายางพันธุ์พื้นเมืองประมาณ 1-3 เท่า      ฉะนั้นการจะกรีดยางพันธุ์ดีบ่อยครั้งเหมือนกับการกรีดยางพื้นเมืองจึงทำไม่ได้ จำเป็นต้องให้มีเวลาพัก มิฉะนั้นต้นยางจะเป็นโรคเปลือกแห้ง คือกรีดแล้วน้ำยางไม่ออก

วิธีการกรีดยาง
            ต้นยางทุกต้นมีท่อน้ำยางอยู่ที่เปลือก วนเวียนรอบ ๆ ต้นจากบนขวามาล่างซ้าย การกรีดยางจากขวามาซ้าย ซึ่งกรีดกันมาแต่ ก่อนนั้นท่อน้ำยางถูกตัดขาดน้อยกว่าการกรีดจากซ้ายมาขวา ฉะนั้นจึงควรกรีดจากซ้ายมาขวา เพื่อให้ท่อน้ำยางถูกตัดขาดมาก จะทำให้ได้น้ำยางมากขึ้น
 


ทางเดินของท่อน้ำยางและทิศทางที่ควรกรีด

การเปิดกรีดครั้งแรก
ต้นติดตา
1.            ต้นยางจะเปิดกรีดได้เมื่อวันรอบต้นตรงบริเวณที่สูงจากพื้นดิน 150 ซม. ได้ 50 ซม. ขึ้นไป โดยไม่คำนึงถึงอายุของต้นยาง และเปิดกรีด ณ จุดที่สูงจากพื้นดิน 150 ซม.
2.       ในระยะ 3 ปีแรก กรีดครึ่งต้นวันเว้นวัน โดยไม่มีการกรีดชดเชย และควรหยุดกรีดเมื่อยางผลัดใบ 
3. กรีดครึ่งต้นวันเว้นวัน ตลอดไป หลังจากกรีดไปแล้ว 3 ปี และมีการกรีดชดเชย ถ้าวันกรีดน้อยกว่า 200 วันต่อปี 
4. กรีดจากซ้ายมาขวา โดยทำมุมให้เอียง 30-35 องศา กับแนวระดับ
ต้นกล้า
1. ต้นยางจะเปิดกรีดได้เมื่อวัดรอบต้นตรงบริเวณที่สูงจากพื้นดิน 75 ซม. ได้ 50 ซม. ขึ้นไป โดยไม่คำนึงถึงอายุของต้นยาง และเปิดกรีดที่จุดสูงจากพื้นดิน 75 ซม.
2. กรีดครึ่งต้น กรีดวันเว้น 2 วัน สำหรับหน้าแรก 
3. กรีดครึ่งต้นวันเว้นวันสำหรับหน้าต่อไป โดยไม่ต้องกรีดชดเชยแต่ควรหยุดกรีด เมื่อต้นยางผลัดใบ
4. กรีดจากซ้ายมาขวา โดยทำมุมให้เอียง 30-35 องศา กับแนวระดับ
อุปกรณ์ในการเปิดกรีดยาง

1. ไม้เปิดกรีด
2. มีดกรีดยาง
3. ถ้วยรองน้ำยาง รางและลวดพยุงถ้วย
การเปิดกรีดหน้ายาง


             การเปิดกรีดให้เอาไม้แบบที่เตรียมไว้      ทาบเข้ากับส่วนสูงของลำต้น แล้วแนบแผ่นสังกะสีไปทางด้านซ้ายมือ ขีดเส้นตามแนวบนของแผ่นสังกะสีรอยที่เกิดขึ้นนี้คือตำแหน่งหน้ายางที่จะเปิดกรีด ซึ่งมีความสูงและความลาดเอียงตามที่ต้องการ ต่อไปให้เครื่องหมายแนวของเปลือกที่จะต้องกรีดไว้ด้วย ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แนวด้านหน้าให้ขีดเส้นลงมาตามแนวของไม้ที่แนบไว้ ส่วนด้านหลังให้ใช้เชือกวัดรอบต้นตรงความสูงที่จะเปิดกรีดแล้วทบสองความยาวของเชือกซึ่งจะเท่ากับครึ่งหนึ่งของเส้นรอบวงของ ต้นยาง นั้น   เอาปลายเชือกข้างหนึ่งจดที่เส้นแนวหน้าตรงหน้ายางที่จะเปิดกรีด ทาบเชือกไปรอบต้นสุดปลายเชือกก็คือแนวด้านหลัง แล้วขีดเส้นแนวยาวลงไปตามลำต้น
วิธีติดรางและถ้วยรับน้ำยาง


1. ติดรางรองน้ำยางห่างลงมาจากรอยกรีด 25 ซม. หรือ 9-10 นิ้ว ไม่ควรกดรางให้ลึกถึงเยื่อเจริญของต้นยาง
2. ติดลวดและวางถ้วยรับน้ำยางห่างจากรางรับน้ำยางประมาณ 5-7 ซม. หรือ 2-3 นิ้ว

การสิ้นเปลืองเปลือก



ทุกครั้งที่กรีดยาง เปลือกยางจะถูกตัดออกไป ฉะนั้นเดือนหนึ่ง ๆ ควรกรีดเปลือกยางหมดประมาณ  1  นิ้ว   หรือขนาดความกว้างของเหรียญบาท    และควรทำเครื่องหมายไว้เพื่อตรวจสอบความสิ้นเปลืองของเปลือกยาง เมื่อกรีดมาถึงโคนหรือใกล้พื้นดิน ค่อยๆเลื่อนถ้วยรับน้ำยางจากขวาไปซ้ายตามความหดสั้นลงของรอยกรีด เพื่อใช้เปลือกบริเวณโคนให้หมด โดยไม่ต้องขุดหลุมฝังถ้วยแต่อย่างใด
การเปิดกรีดหน้าที่สอง


เมื่อกรีดยางหน้าแรกหมดแล้ว ให้เปิดกรีดหน้าที่สอง ของเปลือกยาง โดยเปิดกรีดหน้ายางสูงจากพื้นดิน 150 ซม. ทั้งต้นติดตาและต้นกล้าและใช้มุมของการกรีดเท่ากับ 30-35 องศา ดังเดิม

เวลาของการกรีดยาง

การกรีดยางพันธุ์ดี ไม่จำเป็นต้องกรีดก่อนสว่าง ควรกรีดเมื่อสว่างแล้วคือประมาณ 06.00-08.00 น. ก็จะได้น้ำยางมากเท่า ๆ กันกับการกรีดยางก่อนสว่าง แต่อย่าให้เกิน 11.00 น.

ข้อควรปฏิบัติ

1. ใช้มีดที่คมอยู่เสมอ
2. กรีดจากซ้ายไปขวา
3. กรีดครึ่งต้นวันเว้นวัน
4. อย่ากรีดลึกถึงเนื้อไม้
5. กรีดบาง ๆ เดือนหนึ่งใช้เปลือกอย่าให้เกิน 1 นิ้ว
6. ควรกรีดยางในตอนเช้าเป็นต้นไป 06.00-08.00 น. อย่าให้เกิน 11.00 น.
7. ไม่กรีดยางในขณะที่ต้นยางเปียก
8. หยุดกรีดเมื่อยางผลัดใบ
9. ทำความสะอาดถ้วยน้ำยางก่อนกรีดยางทุกครั้ง
10. เก็บน้ำยางเสร็จ คว่ำถ้วยไว้เสมอ
11. สำหรับสวนยางขนาดเล็ก ควรเปิดกรีดเมื่อต้นยางที่ได้ขนาดเปิดกรีดจำนวน 1/2 ของต้นยางทั้งสวน ส่วนสวนขนาดใหญ่ควรเปิดกร ีด เมื่อต้นยางได้ขนาดเปิดกรีดไม่น้อยกว่า 70% ของต้นยางทั้งหมด
 





ประเภทโครงงาน

นับตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิต และส่งออก ยางพาราเป็นอันดับ 1 ของโลก จากการสำรวจ เมื่อปี 2537 พบว่า มีพื้นที่ปลูกยางพารา ประมาณ 11.9 ล้านไร่ ผลิตยางได้ 1.72 ล้านตัน 

การกรีดยาง

           ยางพันธุ์ดีไม่เหมือนยางพันธุ์พื้นเมือง กรีดครั้งหนึ่งน้ำยางออกมากกว่ายางพันธุ์พื้นเมืองประมาณ 1-3 เท่า      ฉะนั้นการจะกรีดยางพันธุ์ดีบ่อยครั้งเหมือนกับการกรีดยางพื้นเมืองจึงทำไม่ได้ จำเป็นต้องให้มีเวลาพัก มิฉะนั้นต้นยางจะเป็นโรคเปลือกแห้ง คือกรีดแล้วน้ำยางไม่ออก


วิธีการกรีดยาง

ต้นยางทุกต้นมีท่อน้ำยางอยู่ที่เปลือก วนเวียนรอบ ๆ ต้นจากบนขวามาล่างซ้าย การกรีดยางจากขวามาซ้าย ซึ่งกรีดกันมาแต่ ก่อนนั้นท่อน้ำยางถูกตัดขาดน้อยกว่าการกรีดจากซ้ายมาขวา ฉะนั้นจึงควรกรีดจากซ้ายมาขวา เพื่อให้ท่อน้ำยางถูกตัดขาดมาก จะทำให้ได้น้ำยางมากขึ้น
ชื่อผู้เสนอโครงงาน

นางสาวพรชนิตว์  ปลอดรอด  และ  นางสาวน้ำฝน  ชุมทอง  นักเรียนนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช  ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖/๑

 

แหล่งข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า

เอกสารเผยแพร่ที่ 30
กรมส่งเสริมการเกษตร เรียบเรียง ชวลิตร หุ่นแก้ว กองส่งเสริมพืชสวน

ศิลป์ ชำนาญ เอี่ยมทัต กองเกษตรสัมพันธ์
จัดทำ พัฒนา นรมาศ กองเกษตรสัมพันธ์
ผลิตและเผยแพร่โดย
ฝ่ายเอกสารคำแนะนำ กองเกษตรสัมพันธ์
กรมส่งเสริมการเกษตร

วัตถุประสงค์
            .เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้รู้จักวิธีการกรีดยางของชาวภาคใต้
            .เพื่อให้เยาวชนได้รู้และเข้าใจวิถีชีวิตของชาวภาคใต้ในการประกอบอาชีพ
            .เพื่อเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาของชาวภาคใต้


หลักการทำโครงงาน
         ศึกษาค้นคว้า หาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ  และนักวิชาการต่างๆ    ซึ่งครอบคลุมคำว่า    ภูมิปัญญา 
ภูมิปัญญาพื้นบ้าน  ภูมิปัญญาชาวบ้าน  ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ภูมิปัญญาไทย  สามารวบรวมได้ดั้งนี้

๑)     ภูมิปัญญา
             คำว่าภูมิปัญญา  ตรงว่าคำศัพท์ภาษาอังกฤษว่า  wisdom  ซึ่งมีความหมายว่า  ความรู้  ความสามารถ ความเชื่อ ความสามารถทางพฤติกรรม  และความสามารถในการแก้ไขปัญหาของมนุษย์
๒)   ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
             คำว่าภูมิปัญญาพื้นบ้าน  ให้ความหมายว่าเป็นองค์ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมและสืบทอดกันมาอันเป็นความสามารถและศักยภาพในเชิงแก้ปัญหา การปรับตัวเรียนรู้และสืบทอดไปสู่คนรุ่นใหม่ เพื่อการดำรงอยู่รอดของเผ่าพันธุ์  จึงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ  เผ่าพันธุ์หรือเป็นวิถีของชาวบ้าน
๓)    ภูมิปัญญาชาวบ้าน
              ภูมิปัญญาชาวบ้านเกิดจากการสะสมการเรียนรู้มาเป็นระยะเวลายาวนาน  มีลักษณะเชื่อมโยงกันไปหมดในทุกสาขาวิชาไม่แยกเป็นวิชาๆ  แบบที่เราเรียน  ฉะนั้นวิชาที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจอาชีพ  ความเป็นอยู่เกี่ยวการใช้จ่าย  กับการศึกษาวัฒนธรรมมันจะผสมผสานกลมกลืนเชื่อมโยงกันไปหมด
๔)    ภูมิปัญญาท้องถิ่น
              กองวิจัยการศึกษา  กรมวิชาการ  กล่าวว่า  ภูมิปัญญาท้องถิ่น ( Local wisdom ) หรือภูมิปัญญาชาวบ้าน (popular wisdom ) เป็นองค์ความรู้ความสามารถของชาวบ้าน ที่สั่งสมสืบทอกกันมากันเป็นศักยภาพหรือความสามารถที่จะใช้แก้ปัญหา  ปรับตัว  เรียนรู้  และมีการสืบทอดไปสู่คนรุ่นใหม่  หรือคือแก่นของชุมชนที่จรรโลงชุมชนให้อยู่รอดจนถึงปัจจุบัน
๕)   ภูมิปัญญาไทย
             ภูมิปัญญาไทย  เป็นผลของประสบการณ์สั่งสมของคนที่เรียนรู้จากปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม  ปฏิสัมพันธ์ในชุมชนเดียวกันและระหว่างกลุ่มชุมชนหลายๆชาติพันธุ์  รวมไปถึงโลกทัศน์ที่มีต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ  ภูมิปัญญาเหล่านี้เคยเอื้ออำนวยให้คนไทยแก้ปัญหาได้ดำรงอยู่  และสร้างสรรค์อารยธรรมของเราเองอย่างมีดุลยภาพกับสิ่งแวดล้อม  โดยเฉพาะในระดับพื้นฐานหรือระดับชาวบ้าน  ภูมิปัญญาในแผ่นดินนี้ มิได้เกิดขึ้นเป็นเอกเทศ แต่มีส่วนแลกเปลี่ยนเลือกเฟ้น  และปรับให้ภูมิปัญญาจากอารย-ธรรมอื่นตลอดมา

 
ขอบเขต
             การกรีดยางมักจะมีอุปสรรคเมื่อตอนฝนตก  และราคาของยางพาราจะลดลง เนื่องจากชาวภาคใต้มักจะประกอบเป็นอาชีพหลัก และเป็นวิถีชีวิตในการดำรงชีวิตของมนุษย์และยางพารายังสามารถไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆได้